วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

วัดป่าเลไลยก์ วันขึ้นชื่อของสุพรรณบุรี


วัดป่าเลไลยก์  อำเภอเมือง
กล่าวกันเสมอมาว่า ถ้ามาเมืองสุพรรณ แล้วไม่ได้แวะมากราบไหว้หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ก็เหมือนมาไม่ถึงเมืองสุพรรณ
ด้วยที่วัดป่าเลไลยก์เป็นวัดสำคัญ คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุพรรณ เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นสถานที่หนึ่งในวรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน
ในช่วงวันหยุดจะมีผู้คนมากมายมากราบไหว้ขอพร และยิ่งเป็นวันหยุดยาว จะเป็นที่ที่คนนิยมมากเป็นอันดับต้นๆของจังหวัดสุพรรณ
   ถ้าหากมีโอกาสมาเมืองสุพรรณ สถานที่แรกที่ไม่ควรผ่านเลย... แวะชมความงดงามขอหลวงพ่อโต และกราบไหว้เพื่อเป็นศิริมงคล



ในอดีต..ประวัติวัดป่าเลไลยก์ 
เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่ามีอายุราว 1200 ปี ตั้งอยู่ริมถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง
อยู่ทางฝั่งตะวันตกของลำน้ำสุพรรณ ห่างจากศาลากลางจังหวัด ประมาณ 4 กิโลเมตร
ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า
วัดป่า ภายในวิหาร เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต ปางป่าเลไลยก์ 
   ในพงศาวดารเหนือกล่าวว่า ...พระเจ้ากาเตทรงให้มอญน้อย มาบูรณะวัดป่าเลไลยก์ ภายหลังปี พ.ศ. 1724 เล็กน้อย  
หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ศิลปะสมัยอู่ทอง สุพรรณภูมิ (คือประทับนั่งห้อยพระบาท)  มีนักปราชญ์หลายท่านว่า เดิมคงเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา สร้างไว้กลางแจ้งอย่างพระพนัญเชิงสมัยแรกต่อมาได้มีการบูรณะ ซ่อมแซมใหม่ และทำเป็นปางป่าเลไลยก์ ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ภายในองค์พระพุทธรูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ 36 องค์ ที่ได้มาจากพระมหาเถรไลยลาย
ภาพเขียนเรื่องราว ขุนช้าง-ขุนแผน
รอบๆ วิหารของหลวงพ่อโต มีจิตรกรรมฝาผนัง
เล่าเรื่องราวของขุนช้าง-ขุนแผน
ตั้งแต่เริ่มเรื่อง จนถึงตอนสุดท้าย
เป็นภาพที่สวยงาม และได้ความรู้
วัดป่าเลไลยก์ มีความเกี่ยวข้องกับวรรณคดี
อันลือชื่อของไทย  คือ เสภาขุนช้างขุนแผน 
นิราศเมืองสุพรรณของสุนทรภู่
ปัจจุบัน วัดป่าเลไลยก์ มีสถานะเป็น
พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร
เรือนขุนช้าง เป็นเรือนไทยแบบโบราณ ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดป่าเลไลยก์ สร้างเป็นเรือนไทยไม้สักหลังใหญ่กว้างขวาง ตามเรือนของขุนช้างในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ขึ้นไปบนเรือนจะเห็นภาพวาดตัวละครขุนช้าง
นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่ละห้องจะมีภาพบรรยายเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน มีการจัดแสดงเครื่องใช้ต่างๆในสมัยก่อน มีการตกแต่บริเวณโดยรอบสวยงามน่าเที่ยวชม
เสภาขุนช้างขุนแผน  เมื่อนางทองประศรี
พาพลายแก้วไปอยู่เมืองกาญจน์เก็บหอมรอมริบ
จนกระทั่งมีฐานะเป็นเศรษฐี และเมื่อพลายแก้วเติบโต
ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรและได้มาเรียนคาถาอาคม
พร้อมกับเทศน์มหาชาติ กับสมภารมีแห่งวัดป่าเลไลยก์ 
เพื่อเป็นการอนุรักษ์เรื่องราวดีๆ   ทางวัดป่าเลไลยก์
ได้จัดให้มีเทศน์มหาชาติขึ้นเป็นประจำทุกปี
และสร้างเรือนขุนช้าง เป็นเรือนไทย ไม้สัก
เพื่อให้ลูกหลานได้ทัศนศึกษาสืบต่อไป.......



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น